หน้าแรก ข่าวเศรษฐกิจ 28/12/66 ราคาบิตคอยน์พุ่งทะลุระดับ 43,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2565

28/12/66 ราคาบิตคอยน์พุ่งทะลุระดับ 43,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2565

482
0

ในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ราคาบิตคอยน์พุ่งทะลุระดับ 43,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 โดยราคาปิดอยู่ที่ 43,240 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.4% จากวันก่อนหน้า ส่งผลให้บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 150% ในปีนี้ และกลายเป็นสินทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นดีที่สุดในปี 2566 เมื่อเทียบกับดัชนี S&P 500 ซึ่งปรับตัวขึ้นเพียง 24%

ในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ราคาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีที่สำคัญมีดังนี้

  • บิตคอยน์ (BTC) ปิดที่ 43,240 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.4% จากวันก่อนหน้า
  • อีเธอเรียม (ETH) ปิดที่ 3,390 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.5% จากวันก่อนหน้า
  • บิตคอยน์แคช (BCH) ปิดที่ 370 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.7% จากวันก่อนหน้า
  • ไลท์คอยน์ (LTC) ปิดที่ 170 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.1% จากวันก่อนหน้า
  • เทารัส (XRP) ปิดที่ 0.84 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.7% จากวันก่อนหน้า
  • โซลานา (SOL) ปิดที่ 110 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.0% จากวันก่อนหน้า
  • คาร์ดาโน (ADA) ปิดที่ 0.93 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.2% จากวันก่อนหน้า
  • โดจคอยน์ (DOGE) ปิดที่ 0.06 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.5% จากวันก่อนหน้า

โดยรวมแล้ว ราคาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร โดยบิตคอยน์พุ่งทะลุระดับ 43,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2565

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น ได้แก่

  • การคาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) จะอนุญาตให้บริษัทหลายแห่งจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ภายในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งจะเป็นการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ครั้งแรกในสหรัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการลงทุนในบิตคอยน์ และเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในบิตคอยน์ได้ง่ายขึ้น
  • ปรากฏการณ์ Halving ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2567 โดยในช่วงนี้อัตราการผลิตบิตคอยน์จะลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหายากของบิตคอยน์ และอาจส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ทั้งนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 150% ในปีนี้ ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเพียง 24%

นักวิเคราะห์คาดว่าบิตคอยน์ยังคงมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อไป โดยได้ปัจจัยบวกจากปรากฏการณ์ Halving ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค.2567

ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะพุ่งแตะ 50,000 ดอลลาร์ในปีนี้ และ 120,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีหน้า

บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นทะลุ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับ 20,000 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.2565 ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลจะฉุดสภาพคล่องในตลาด และทำให้สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ปรับตัวอย่างผันผวน โดยได้ทะยานขึ้นมากกว่า 1,000% ในปี 2560 ก่อนที่จะดิ่งลง 74% ในปี 2561 และกลับมาปรับตัวขึ้นในปี 2562-2564 แต่ก็ร่วงลง 64% ในปี 2565 ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวและการล้มละลายในอุตสาหกรรมคริปโทฯ