หน้าแรก ข่าวเศรษฐกิจ พาวเวล ยันเฟด พร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยแก้ปัญหาเงินเฟ้อ

พาวเวล ยันเฟด พร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยแก้ปัญหาเงินเฟ้อ

1012
0
© Matichon ภาพประกอบข่าว
พื้นที่โฆษณา 1

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวถ้อยแถลงกับคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อที่จะได้รับการรับรองในการดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อเป็นสมัยที่ 2 โดยระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อนั้นอาจจะส่งผลไปถึงช่าวกลางปี โดยเฟดพร้อมที่จะตอบสนองต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้กำหนดนโยบายก็มีหน้าที่ในการทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่องและสนับสนุุนให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้สหรัฐอเมริกากำลังประสบปัญหาเงินเฟ้อ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งสูง ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐถูกกดดันอย่างหนักให้ “ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” เพื่อชะลออัตราการกู้ยืมและการใช้จ่าย ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจสหรัฐก็เริ่มฟื้นตัวจนนโยบายลดดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำมากนั้นอาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป

“หากเราต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเราก็จะทำ” พาวเวล ระบุ และว่า ปัญหาเงินเฟ้อนั้นเป็นความเสี่ยงอันดับต้นๆต่อแน้วโน้มเศรษฐกิจ พร้อมทั้งระบุว่าอัตราเงินเฟ้อเวลานี้อยู่เหนือเป้าหมายอยู่มาก

อย่างไรก็ตามนายพาวเวล ระบุว่า ปัญหาราคาสินค้าพุ่งสูงในเวลานี้นั้นเกิดจาก “อุปสงค์” และ “อุปทาน” ที่ไม่สอดคล้องกันและเป็นผลมาจากปัญหาการขนส่งทั่วโลกที่ติดขัด โดยธนาคารกลางสหรัฐมองว่าห่วงโซ่กาลผลิตและการขนส่งจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม หากระดับเงินเฟ้อยังคงพุ่งสูงนานกว่าที่คาด เฟดจะใช้เครื่องมือที่มีในการลดอัตราเงินเฟ้อลงมา

มะกันครวญ เงินเฟ้อพุ่งพรวด 7% จากปีก่อน สูงสุดรอบ 40 ปี

อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาพุ่งพรวดรวดเร็วที่สุดในรอบ 40 ปีในปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 1982 หรือเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตของชาวอเมริกันเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมามีตั้งแต่ราคารถยนต์ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าอาหาร ไปจนถึงค่าเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังประสบภาวะถดถอยเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้น

ขณะที่การอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลรวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ กลับยิ่งกระตุ้นให้มีความต้องการสินค้าและข้าวของต่างๆ มากขึ้น และการฉีดวัคซีนยังช่วยให้ผู้คนมีความมั่นใจที่จะออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านและเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง

กระทรวงแรงงานของสหรัฐรายงานเมื่อวันที่ 12 มกราคมว่า สถานการณ์เงินเฟ้อทำให้ราคาข้าวของต่างๆ ซึ่งไม่รวมถึงอาหารและราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงได้ง่ายปรับเพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าปรับเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบหลายสิบปี