หน้าแรก ข่าวเศรษฐกิจ หุ้นไทยวันนี้ 13 มิ.ย. 65 ปิดตลาดหุ้นบ่าย ร่วง 32.56 ดัชนีอยู่ที่ 1,600 จุด

หุ้นไทยวันนี้ 13 มิ.ย. 65 ปิดตลาดหุ้นบ่าย ร่วง 32.56 ดัชนีอยู่ที่ 1,600 จุด

944
0
พื้นที่โฆษณา 1

หุ้นดิ่งเกือบ 33 จุด ตลาดตื่นตระหนกเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งสุดรอบ 40 ปี

หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดหุ้นบ่าย ปรับลด 32.56 ดัชนีอยู่ที่ 1,600.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,466.76 ล้านบาท

การเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือหุ้นไทยวันนี้ ประจำวันที่ 13 มิ.ย. 65 ครึ่งวันบ่าย พบว่า ดัชนีปรับลด 32.56 เปลี่ยนแปลง -1.99% ดัชนีอยู่ที่ 1,600.06 จุด ดัชนีสูงสุด  1,616.31 ดัชนีต่ำสุด 1,599.34 มูลค่าการซื้อขาย 73,466.76 ล้านบาท

ทั้งนี้ สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขาย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 3.บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) 4.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 5.บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน).

หุ้นดิ่งเกือบ 33 จุด ตลาดตื่นตระหนกเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งสุดรอบ 40 ปี

วันที่ 13 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,632.62 จุด ก่อนปิดตลาดในแดนลบที่ระดับ 1,600.06 จุด ปรับลดลง 32.56 จุด หรือ 1.99% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,616.31จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,599.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 73,466.76 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีเปิดช่องว่างก่อนปิดลบรุนแรง ซึ่งภาพเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยสาเหตุเกิดจากแรงกดดันของตัวเลขภาวะเงินเฟ้อสหรัฐ ที่ประกาศออกมาอยู่ในระดับ 8.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 40 ปี ทำให้มีความเสี่ยงว่า ธนาคารกลางทั่วโลกมีโอกาสดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าเดิม จากที่ตลาดคาดไว้จะขึ้น 0.50% ซึ่งกุญแจสำคัญคือ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่เงินเฟ้อสูง และใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น จะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจอย่างไรมากกว่า

“ตอนนี้เราเห็นแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมา ก่อนถึงการประชุมเฟดในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ โดยการปรับลดลงของดัชนีหุ้นไย เพื่อตอบรับปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวนี้ ประเมินว่า โมเมนตัมของการถอยจะเป็นการซึมตัว เพื่อรอความชัดเจนในการประชุมครั้งถัดไปของธนาคารกลางทั่วโลก แต่แรงในการปรับลดลง คงไม่ได้รุนแรงมากเท่าเดิมแล้ว โดยให้กรอบล่างของดัชนีที่ระดับ 1,580 จุด เพราะเชื่อว่ามีโอกาสในการปรับลดลงหลุดระดับ 1,600 จุดแน่นอน” นายวิจิตรกล่าว

นายวิจิตรกล่าวว่า สัญญาณในการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นในระยะถัดไป ภาพการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ จะต้องไม่สร้างความตื่นตระหนก (แพนิก) มากกว่าปัจจุบัน โดยหากปรับขึ้นที่ 0.50% ถือว่าอยู่ในระดับที่คาดการณ์อยู่แล้วกว่า 80% จึงยังพอเดินต่อไปได้ แต่หากปรับขึ้นทันที 0.75% ตลาดพังแน่นอน โดยภาวะเงินเฟ้อยังพอแก้ไขได้ ก็พอมีช่องว่างในการดึงดัชนีกลับได้ แต่หากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ออกมาในเชิงกังวลตัวเลขเงินเฟ้อมากๆ ถือเป็นสัญญาณในการกดดันตลาดหุ้นไทย และทั่วโลก รวมถึงราคาพลังงาน ที่เป็นสาเหตุกดดันให้ภาวะเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น ซึ่งหากราคาพลังงานยังไม่สามารถปรับลดลงได้ เงินเฟ้อก็จะฉุดให้ปรับลงได้ยากเช่นกัน

นายวิจิตรกล่าวว่า ด้านกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำหุ้นที่มีเรื่องรวม หรือมีปัจจัยเฉพาะตัวที่ดี มีสัญญาณกำไรที่สามารถกลับมาได้ อาทิ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มท่องเที่ยว